ต้องบอกเลยว่าการทำเลสิกนั้นเปรียบได้กับการทำสิ่งที่เหมาะสมกับตนเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเชื่อได้เลยว่า หลายๆ คนนั้นมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา บางคนก็สายตาสั้น บางคนสายตาเอียง ในขณะที่บางคนก็สายตายาว ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อเราจำเป็นต้องใช้ชีวิตกลางแจ้งโดยไม่สวมแว่น อาจจะทำให้ไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทุกคนควรใส่ใจก็คือ การทำเลสิกเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะต้องใช้วิธีใดในการดูแลตนเอง มาดูพร้อมๆ กันเลย 

1.ห้ามขยี้ตา 

สำหรับการปฏิบัติตัวข้อแรกนั้น เชื่อได้เลยว่าทุกคนก็คงจะพยายามปฏิบัติตามกันอยู่แล้ว เนื่องจากว่าหลังจากการทำเลสิกเรียบร้อยแล้ว คนที่เข้ารับการรักษาจะต้องมีอาการคันหรือว่าเคืองตาอย่างแน่นอน นอกจากจะคันหรือว่าเคืองตาแล้วก็อาจรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งที่อยู่ในดวงตาของเรา ทำให้เกิดอาการปวดตามากกว่าปกติ สิ่งที่ทำได้ก็คือ การกินยาแก้ปวด สำหรับลดอาการปวด แต่ไม่สามารถขยี้ตาได้นั่นเอง 

2.ใส่ฝาครอบทุกครั้งก่อนนอน  

เนื่องจากว่าเมื่อทำ Lasik เรียบร้อยแล้ว ทางแพทย์ที่ทำการรักษาก็จะมีการใส่แผ่นปิดตาให้เรียบร้อยแก่ผู้ป่วย จากนั้นผู้ป่วยก็จะมีการนอนพักผ่อนที่บ้านเป็นหลัก ซึ่งเมื่อกลับมานอนพักผ่อนที่บ้านอย่าลืมใส่ฝาครอบดวงตาก่อนจะนอนทุกคืน ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดผลเสียได้ในอนาคตนั่นเอง 

3.กลับไปพบแพทย์ใน 48 ชั่วโมง 

หลายๆ คนเข้าใจไปว่าเมื่อเราทำ Lasik เรียบร้อยแล้วนั้น ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์แต่อย่างใด ทั้งที่ในความเป็นจริงเมื่อเรากลับมาพักผ่อนที่บ้าน มาพักฟื้นดวงตาแต่เราจะต้องไปพบจักษุแพทย์ใน 24 ชั่วโมง เพื่อให้แพทย์ถอดแผ่นปิดตาออก รวมไปถึงการตรวจการสมานของดวงตา และยังต้องมีการทดสอบการมองเห็น 

4.การกินยา 

สำหรับขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การกินยา หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าเราจะต้องกินยาอะไรกันแน่ ขอตอบเลยว่าเราจะต้องกินยา หรือหยอดยาปฏิชีวนะ เพื่อทำการฆ่าเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นจากแผล โดยบางครั้งก็อาจจะเกิดการอักเสบได้ การมีน้ำตาเทียมจะช่วยในการหล่อลื่นดวงตา และบรรเท่าอาการตาแห้งได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว  

5.ติดตามผล 

เมื่อเสร็จในขั้นตอนแรกแล้ว จะมีการติดตามผลในระยะเวลาตั้งแต่ 1 สัปดาห์ไปจนถึงหนึ่งปี เพื่อดูว่ามีสิ่งผิดปกติใดๆ หรือไม่ หากเกิดสิ่งผิดปกติใดๆ ก็สามารถไปได้เลยโดยไม่ต้องรอวันนัดหมาย 

อาจจะกล่าวได้ว่าการทำ Lasik เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นก่อนจะทำ Lasik ที่ใดก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด และจะต้องไม่ลืมว่าเราควรเลือกที่จะทำสิ่งที่เหมาะสมกับตนเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดปัญหาทางสายตานั่นเอง  

Explore More

วิธีเลือกนมปรุงแต่งพาสเจอร์ไรส์ All Season

นมปรุงแต่งพาสเจอร์ไรส์ All Season
May 6, 2022 0 Comments 1 tag

หากว่าเอ่ยถึงนมพาสเจอร์ไรซ์ ทุกคนก็คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยนมชนิดนี้เป็นนมวัวที่ได้รับการฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิประมาณ 60 กว่าองศาเซลเซียส โดยจะทำให้นมนั้นร้อนในอุณหภูมิ 63-72 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 16 วินาที แล้วทำให้เย็นลงในทันทีทันใดประมาณ 16 วินาที ซึ่งจะสามารถฆ่าเชื้อโรคที่ทำให้นมบูด และนมชนิดนี้ก็เป็นนมที่ผู้คนต่างนิยมชมชอบ เนื่องจากว่ามีรสชาติอร่อย อีกทั้งยังไม่ทำลายรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของนมวัว  การเก็บจะต้องเก็บในตู้เย็นเท่านั้นและอุณหภูมิจะต้องไม่เกิน 8 องศาเซลเซียส  สำหรับการเลือกนมปรุงแต่งพาสเจอร์ไรส์ All Seasonนั้นมีดังต่อไปนี้  1.เลือกรสที่ชอบ  นมปรุงแต่งพาสเจอร์ไรส์ All Season มีรสชาติที่น่าสนใจหลายต่อหลายรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นรสสตอเบอร์รี่ ที่มีกลิ่นหอมของสตรอเบอรี่

วิตามินรวมคืออะไร

วิตามินรวม
May 23, 2022 0 Comments 2 tags

วิตามินรวม (Multivitamin) คือวิตามินเสริมที่ประกอบด้วยวิตามินหลากหลายชนิดซึ่งพบได้ในอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน โดยจะนำมาใช้ในกรณีที่อาจได้รับวิตามินจากอาหารไม่เพียงพอ หรือเพื่อรักษาภาวะขาดวิตามินของร่างกายที่อาจเกิดจากอาการป่วยบางชนิด เช่น การขาดสารอาหาร โรคเกี่ยวกับการย่อยอาหาร และอื่น ๆ เป็นต้น วิตามินรวมดีไหม ? สิ่งที่วิตามินรวมทำได้ก็คือ ช่วยทดแทนวิตามินในส่วนที่ขาด หรือไม่มีอยู่ในอาหารที่คุณกินเข้าไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทานอาหารสำเร็จรูปบ่อยๆ ก็มีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่ร่างกายจะขาดวิตามินและเกลือแร่บางชนิด ซึ่งวิตามินรวมจะช่วยทำหน้าที่ตรงนี้ให้คุณได้ นอกจากนี้นักโภชนาการยังบอกด้วยว่า วิตามินรวมยังช่วยทดแทนในส่วนที่ขาด เวลาที่เรากินอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปน้อยเกินควร วิตามินรวมจึงทำหน้าที่เหมือนนักโภชนาการประจำตัว ที่ช่วยทำให้คุณมั่นใจได้ว่าร่างกายจะได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นอยู่เสมอ ข้อแนะนำในการใช้วิตามินรวม ให้รับประทานวิตามินรวมตามปริมาณและระยะเวลาที่แพทย์กำหนด และปฏิบัติตามฉลากกำกับการใช้ ผู้ที่มีโรคประจำตัว

รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการทำเด็กหลอดแก้ว

การทำเด็กหลอดแก้ว
January 27, 2023 0 Comments 5 tags

            ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีหลายวิธีที่สามารถเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้ผู้มีบุตรยากได้ แต่ต้องยอมรับเลยว่า หนึ่งในวิธีที่ฮอตฮิตตลอดการ ก็ยังคงเป็น “การทำเด็กหลอดแก้ว”             อะไรที่ทำให้หลายครอบครัวเลือกใช้วิธีนี้ในทุกยุคทุกสมัย เราชวนมาหาคำตอบจากบทความนี้ หลักการของการทำเด็กหลอดแก้ว           การทำเด็กหลอดแก้ว เป็นการนำเซลล์ไข่ของผู้หญิง และตัวอสุจิของผู้ชาย มาทำการปฏิสนธิจนเกิดตัวอ่อนภายนอกร่างกายด้วยวิธีการทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory) ก่อนที่จะนำตัวอ่อนนั้นกลับเข้าสู่ร่างกายของผู้หญิง เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป ซึ่งอุปกรณ์หลักในห้องปฏิบัติการก็คือภาชนะเพาะพันธุ์ตัวอ่อนอย่าง “หลอดแก้ว” จึงเป็นที่มาของการเรียกวิธีนี้ว่าการทำเด็กหลอดแก้วนั่นเอง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภายหลัง ภาชนะจะมีหลากหลายมากขึ้น ทั้งหลอดแก้ว และจานแก้ว แต่วิธีนี้ก็ยังถูกเรียกด้วยชื่อเดิมอยู่ดี การทำเด็กหลอดแก้วมีโอกาสสำเร็จสูง